เวลาทำการ

จันทร์-ศุกร์

09-00-18.00 น.

เราช่วยคุณได้

@gethergotravel

Travel License : 11/12373

หน้าแรก

/

บทความท่องเที่ยว

/

ตามรอยพระพุทธเจ้า สถานที่ประสูตร ตรัสรู้ ปฐมเทศนา และ ปรินิพพาน

ตามรอยพระพุทธเจ้า สถานที่ประสูตร ตรัสรู้ ปฐมเทศนา และ ปรินิพพาน

30

Apr

เนปาล

ตามรอยพระพุทธเจ้า สถานที่ประสูตร ตรัสรู้ ปฐมเทศนา และ ปรินิพพาน

gethergo ชวนไปตามรอยพระพุทธเจ้า สถานที่ประสูติ ตรัสรู้ ปรินิพพาน ของพระพุทธเจ้า ทริปนี้ก่อนจะเดินทาง เพื่อให้คุ้มค่าจริงๆ ผมอยากให้เตรียมตัวกันยาวกว่าทริปอื่นๆ ผมขออธิบายการเตรียมตัวดังนี้ครับ เราชาวพุทธกว่า 90% อันนี้ผมประมาณเองนะครับ นับถือศาสนาพุทธกันแค่ในเอกสาร ไม่ได้ศึกษา ไม่ได้อ่าน ไม่ได้ฟ้งคำสอนของพระพุทธองค์กันจริงจัง เพราะบางท่านอาจจะเคยอ่านคำสอน ธรรมะ หรือพระสูตร อาจจะรู้สึกว่าเป็นภาษาที่ไม่ได้ใช้กันในปัจจุบัน เพราะคำสอนที่อยู่ในพุทธวจน เป็นการจดบันทึกจากคำพูด คำสอนในโอกาสต่างๆ กับบุคคลต่างๆ แล้วนำมาจัดหมวดหมู่ ก็อาจจะคิดว่าคำสอนไม่ Update เอามาใช้ในชีวิตในยุคปัจจุบันไม่ได้  ในเมื่อฉันก็เป็นคนดีอยู่แล้ว ฉันคิดดี ทำดี ไม่ได้เบียดเบียนใคร ฉันคงไม่จำเป็นต้องเข้าวัด ฟังธรรม ศึกษาคำสอนของพระพุทธเจ้า เอาเวลาไปทำมาหากิน พักผ่อน อยู่กับครอบครับดีกว่า ยิ่งนานวันคนก็จะยิ่งห่างคำสอนของพระพุทธองค์ไปเรื่อยๆ 


เราอ่าน เราฟัง คนประสบความสำเร็จในการประกอบธุรกิจ หรือมีความสำเร็จในหน้าที่การงานกันเป็นเรื่องธรรมดา แต่เราลืมกันไปว่าจริงๆ แล้วพระพุทธเจ้าเป็นคนธรรมดาที่ตั้งใจจะศึกษาธรรมชาติของโลกว่าชีวิตคนมีเกิด แก่ เจ็บ ตาย เท่านี้จริงๆ หรือ ท่านจึงศึกษาจนเข้าใจ รู้แจ้ง เห็นจริง รู้ทุกอย่างในเรื่องธรรมชาติอย่างละเอียดระดับอนุภาคแล้วนำมาเรียบเรียงสอนคนให้เข้าใจธรรมชาติ เรียกว่าธรรมะ คำสอนของพระพุทธองค์เป็นสัจธรรม หรือเป็นจริงตลอดกาล เหมือนการพิสูจน์สมการทางคณิตศาสตร์ที่เราเรียนกัน ว่า 1+1=2 คำสอนของพระพุทธองค์ก็เป็นเช่นนั้น มีคำสอนมีอยู่หลายพระสูตร (หลายเล่ม หลายเรื่อง) แล้วแต่ว่าสอนใคร เหมาะกับใคร เช่น เราคนทำมาหาเลี้ยงชีพ เลี้ยงครอบครับ ก็ควรอ่าน ควรศึกษาฆราวาสชั้นเลิศ พระพุทธองค์ได้บัญญัติคำสอนไว้อย่างครอบคลุม หากเราทำตามแล้วชีวิตการทำงาน ครอบครัว สังคม ประเทศ จะเจริญแบบยั่งยืน คนจะมีความเห็นอกเห็นใจกัน มีความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ พูดกันด้วยความไพเราะ 

อ่าน ศึกษา พุทธวจน แล้วดีอย่างไร ทำไมต้องเสียเวลาด้วย การอ่านศึกษาพุทธวจน เหมือนการอ่านหนังสือ Know How แต่เป็นหนังสือที่จดบันทึกคำพูดของพระพุทธองค์ เป็นคำพูดที่เป็นสัจจะความจริงตลอดการไม่ขึ้นกับเวลา เพราะเป็นการพูดถึงธรรมชาติที่มีอยู่ แต่เราไม่ได้สังเกตุอย่างละเอียด พระพุทธเจ้าได้ศึกษาแล้ว รู้แจ้ง เห็นจริงแล้ว ก็เอามาบอก มาสอนต่อเ เมื่อเราฟัง เราอ่าน เราศึกษาเราจะเข้าใจตัวเองว่าทำไมเรารู้สึกแบบนี้ คิดแบบนี้ เราจะตัดสินใจได้ว่าเราคิดแบบนี้แล้วเราจะ Action แบบนี้หรือเปล่า คือเราจะทันความคิดตัวเอง จะเข้าใจคนอื่น การดำเนินชีวิตจะเบาสบายขึ้น เมื่อใจสบาย ร่างกายก็จะสบาย ตัวเองสุข คนรอบข้างก็จะสัมผัสได้ถึงความสุข สังคมก็จะสุข ประเทศก็จะสุข โลกก็จะสุขกันอย่างยั่งยืน

ท่านผู้อ่านที่เปิดมาเจอบทความของผม ผมอยากเชิญชวนให้มาศึกษา พุทธวจน เป็นมงคลกับชีวิต คำสอนของพระพุทธองค์ บุรุษที่มีจิตใจงดงาม บริสุทธิ์ ได้พูด ได้สอนธรรมะ ไว้เมื่อสองพันกว่าปีก่อน เหล่าสาวกได้รวบรวมคำสอนเขียนออกมาตามหมวดต่างๆ เป็นบุญของเราที่ได้อ่าน ได้ฟัง คำสอนที่ออกจากพระโอษฐ์ของพระพุทธองค์จริงๆ มีหลักฐานบันทึกความเป็นมาชัดเจน

แต่ก็ต้องบอกตามตรงว่าก่อนทุกท่านจะไปเริ่มอ่านคำสอนของพระพุทธองค์ ผมอยากให้เริ่มจากการฝึกสมาธิ นั่งสังเกตุลมหายใจตัวเอง หายใจเข้ายาวให้รู้ว่าหายใจเข้ายาว หายใจออกยาวให้รู้ว่าหายใจออกยาว หายใจเข้าสั้นให้รู้ว่าหายใจเข้าสั้น หายใจออกสั้นให้รู้ว่าหายใจออกสั้น ไปสักระยะติดต่อกันให้ได้สักอาทิตย์นึง แรกๆ ท่านจะรู้สึกอึดอัด ทำไปไม่ได้ช่วยอะไร ทำไปใจก็ไม่สงบ วุ่นวาย คิดเรื่องอดีตบ้าง อนาคตบ้าง ขอให้ท่านก็ค่อยๆ ละมันไปเรื่อยๆ ละได้เร็วบ้าง ช้าบ้าง เป็นเรื่องธรรมดา แต่ขอให้ทำต่อเนื่องไปสักหนึ่งอาทิตย์ แล้วท่านจะเริ่มสงบ ผมขอย้ำว่าในใจให้ศรัทธาจริงๆ ว่าพระพูทธองค์นั้นเป็นผู้ตรัสรู้ รู้แจ้ง เห็นจริง ที่เราสามารถนำคำสอนของพระองค์มาทำตามแล้วจะเกิดผลดีในชีวิต ต้องศรัทธาให้แน่วแน่ เพราะมันจะเป็นสิ่งที่ทำให้เรามีความตั้งใจแน่วแน่ที่จะทำสมาธิต่อเนื่องได้ สิ่งที่จะช่วยให้ทำได้ง่ายสุดคือการฟัง YouTube พระสงฆ์ผู้ศึกษาพุทธวจน และปฏิบัติตามพุทธวจน ผมขอนุญาตแนะนำให้ฟัง พระอาจาย์คึกฤทธิ์ โสตฺถิผโล


ทำไมต้องศึกษาเฉพาะพุทธวจน เพราะการฟัง และบอกต่อนั้นอาจจะมีส่วนหล่นหาย หรือเติมมา บางท่านอาจจะเคยเล่นเกมส์ที่ให้คนหัวแถวอ่านข้อความแล้วสื่อสารไปยังคนต่อไป จนถึงท้ายแถว ท่านจะเห็นว่าสารที่ได้รับจากคนสุดท้ายอาจจะผิดเพี้ยนไปจากต้นทางไปมาก เช่นเดียวกันกับกรณีนี้ว่าทำไมเราถึงต้องศึกษาจากพุทธวจน ที่เป็นการรวบรวม แปล แล้วเราศึกษา หรือฟังจากพระสงฆ์ผู้ถ่ายทอดคำสอนพูดตามคำสอนของพระพุทธองค์จริงๆ ไม่ดัดแปลง อ่านมาถึงตรงนี้หลายๆ ท่านอาจจะมีความคิดแตกต่างว่า ก็คนถ่ายทอดเค้าก็จะทำการศึกษาให้เข้าใจแล้วก็มาใช้ภาษาตัวเองในการบอก การสอน ซึ่งผมเห็นด้วยกับการถ่ายทอดทั่วไป แต่สำหรับคำสอนของพระพุทธองค์นั้น เป็นคำสอนที่สอดคล้องกันทั้งหมด พระพุทธองค์ตรัสอะไรแล้วจะต้องเป็นจริงเท่านั้น ดังนั้นการที่จะเอาคำพระพุทธองค์มาปรับเป็นคำสอน มาอธิบายเองจึงเป็นสิ่งที่อาจจะผิดเพี้ยนหรือไม่สอดคล้องกันทั้งหมดได้ ผมเริ่มเข้าใจว่าทำไมหลวงพ่อปัญญาบอกว่าพระสงฆ์บวชใหม่จะไม่อนุญาตให้เทศน์สอนคนได้ ต้องศึกษาให้ทะลุทะลวงก่อน 

ผมเขียนมายืดยาว สรุปคืออยากให้ผู้ที่สนใจที่อยากจะไปร่วมทริปตามรอยพระพุทธเจ้าที่จะให้เกิดความคุ้มค่าจริงๆ นั้น ผมอยากให้เริ่มทำสมาธิ หรือที่เรียกว่าอานาปนสติ อันนี้เป็นส่วนสำคัญที่สุดในคำสอน พอท่านลองทำแล้วเห็นผล ท่านลองเปิดใจอ่าน ศึกษาพุทธวจน เมื่อมีความศรัทธาแล้วค่อยมาร่วมกันเดินทางไปกราบนมัสการ สถานที่ประสูติ  ตรัสรู้ ปรินิพพาน ของพระพุทธเจ้ากันด้วยความศรัทธา ด้วยความระลึกถึงพระเมตตาของพระพุทธเจ้าต่อชาวโลก แบบนี้ถึงจะทำให้การเดินทางครั้งนี้สมบูรณ์ที่สุดครับ 

จำนวนผู้เข้าชม 369 ครั้ง